วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2567

วธ.แถลงเปิดตัวแอนโธเนีย “นางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๗” และเพลงสงกรานต์ ภาษาต่างประเทศ ให้ชาวต่างชาติได้มีส่วนร่วม พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมสงกรานต์ทั่วประเทศ

วธ.แถลงเปิดตัวแอนโธเนีย “นางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๗” และเพลงสงกรานต์ ภาษาต่างประเทศ ให้ชาวต่างชาติได้มีส่วนร่วม พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมสงกรานต์ทั่วประเทศ

 (๔ มี.ค. ๖๗) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานงานแถลงข่าว เปิดตัวนางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ประจำปี ๒๕๖๗ และเพลงสงกรานต์ ฉบับภาษาต่างประเทศ ในโอกาสที่ องค์การยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ พร้อม นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นางอติพร สุนทรสนาน เสนะวงศ์ เจ้าของและผู้จัดการวงดนตรีสุนทราภรณ์  รศ.ดร.จารุณี หงส์จารุ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   นายพหลยุทธ กนิษฐบุตร รองอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และ นางนฤมล เลี้ยงรักษา รองประธานสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าว ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

นายเสริมศักดิ์ ประธาน กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ ด้านเฟสติวัลและด้านการท่องเที่ยวรองรับ Thailand Creative Content Agency (THACCA) และในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรมได้กำหนดนโยบายภายใต้ซอฟต์พาวเวอร์ “สร้างเสน่ห์วิถีไทย ครองใจคนทั้งโลก” เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้แก่ประชาชนและชุมชนและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ โดยประเพณี “สงกรานต์ในประเทศไทย (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year Festival)” ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนในรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา


“ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นประเพณีเก่าแก่ของไทยที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นประเพณีแห่งความสุข ความอบอุ่น อ่อนโยน เต็มไปด้วยบรรยากาศของความกตัญญู ความสนุกสนาน ความเอื้ออาทรและการให้เกียรติ เคารพซึ่งกันและกัน โดยใช้ “น้ำ” เป็นสื่อในการสร้างสัมพันธไมตรี ในปี ๒๕๖๗ นี้รัฐบาล โดยความร่วมมือกับทุกภาคส่วนกำหนดจัดงาน “Maha Songkran World Water Festival : ประเพณีสงกรานต์ไทย หมุดหมายนักท่องเที่ยวทั่วโลก” ในช่วงเดือนเมษายน โดยมีการจัดกิจกรรมทั้งในส่วนกลาง (กรุงเทพมหานคร) และส่วนภูมิภาค จึงขอเชิญชวนคนไทยและชาวต่างชาติทั่วโลกร่วมงานดังกล่าว เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ และร่วมสืบสาน รักษา ต่อยอดมรดกภูมิปัญญาประเพณีสงกรานต์ อันทรงคุณค่าของประเทศไทยให้คงอยู่สืบไป นายเสริมศักดิ์ กล่าว

ด้าน นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ ในโอกาสที่ประเพณี “สงกรานต์ในประเทศไทย (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year Festival)” ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนในรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จากองค์การยูเนสโก ได้แก่ การจัดทำบทเพลงสงกรานต์ ฉบับภาษาต่างประเทศ จำนวน ๔ ภาษา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาฝรั่งเศส เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้รับรู้ถึงคุณค่าสาระของประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทยอย่างกว้างขวาง เป็นการสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของประเทศเพื่อยกระดับและพัฒนาด้านความรู้ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ให้สร้างมูลค่าและสร้างรายได้ ให้แก่ประเทศไทย




นายโกวิท กล่าวอีกว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ได้แต่งตั้งนางสาวแอนโทเนีย โพซิ้ว รองนางงามจักรวาลอันดับ ๑ ประจำปี ๒๐๒๓ เป็น “นางมโหธรเทวี” นางสงกรานต์ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ เพื่อร่วมถ่ายทอดคุณค่าสาระและแสดงอัตลักษณ์ของประเพณีสงกรานต์ไทย สำหรับกิจกรรมเพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ในปีนี้ สวธ.มีการจัดกิจกรรมทั้งในส่วนกลางกรุงเทพมหานครและส่วนภูมิภาค จึงขอเชิญชวนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศร่วมงานดังกล่าวเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

นางนฤมล เลี้ยงรักษา รองประธานสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กิจกรรมงานประเพณีสงกรานต์ถือเป็นการแสดงออกถึงวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ของแต่ละชุมชนที่ทางสภาวัฒนธรรมกรุงเทพฯเองได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมในพื้นที่ทั้ง 50 เขตมาอย่างต่อเนื่องถือเป็นการส่งเสริมด้านศาสนาและวัฒนธรรม การแสดงออกถึงการละเล่นพื้นบ้าน การแสดงออกของกิจกรรมในครอบครัวที่ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรในวันสงกรานต์ แต่ละชุมชนยังมีการประกวดนางสงกรานต์สร้างความสามัคคี สนุกสนาน กระจายรายได้สู่ชุมชน  และเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกด้วย


 

ภายหลังช่วงแถลงข่าวประธานได้มอบจักรและตรีศูล สัญลักษณ์ของนางสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๗ และมอบเกียรติบัตร ให้แก่นางสาวแอนโทเนีย โพซิ้ว รองชนะเลิศอันดับ ๑ มิสยูนิเวิร์ส ๒๐๒๓ ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็น “นางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๗” ต่อด้วยการแสดงทางวัฒนธรรมชุด “ตำนานนางสงกรานต์” โดยแอนโทเนีย โพซิ้ว และการแสดงบทเพลง “เริงสงกรานต์” ฉบับภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ โดยคณะนักร้องคลื่นลูกใหม่ของวงดนตรีสุนทราภรณ์  จากนั้น เป็นการแสดงบทเพลง “สงกรานต์” (เพลงแต่งใหม่โดย รศ.ดร.จารุณี หงส์จารุ) ฉบับภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ บรรเลงโดย วงดนตรีเฉลิมราชย์  และการแสดงขับร้องบทเพลงเริงสงกรานต์ ฉบับภาษาจีน โดย ส.ว.ประเสิรฐ ประคุณศึกษาพันธ์ ร่วมกับคณะเม้ง ป.ปลา นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม สรงน้ำพระพุทธรูป การสาธิตการจัดประเพณีสงกรานต์ จากสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชลบุรี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดภูเก็ต อีกด้วย


 ทั้งนี้ สวธ. ขอเชิญร่วมกิจกรรมเพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๗ ประกอบด้วย

-งานรดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๗ ณ อาคารเอนกประสงค์ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๗  -นิทรรศการ สงกรานต์ไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ๑๐ - ๑๒ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐ - ๒๑.๐๐ น. ณ ลานกลางแจ้งหน้าหอศิลป์กรุงเทพมหานคร (BACC)  -งานสืบสานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ ณ วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร ระหว่าง ๑๒ - ๑๖ เมษายน ๒๕๖๗  และ กิจกรรมการแสดงสืบสานประเพณีสงกรานต์ ในงานใต้ร่มพระบารมี ๒๔๒ กรุงรัตนโกสินทร์ ในวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๗ ณ เวทีการแสดง สังคีตศาลา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นต้น


นางสงกรานต์ ทรงนามว่า มโหธรเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จไสยาสน์ลืมเนตรมาเหนือหลัง มยุรา (นกยูง) เป็นพาหนะ

#นางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๗

#สงกรานต์ในประเทศไทย

#kaomaadoo.net

วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2567

“สุดาวรรณ”ประกาศพลิกโฉมท่องเที่ยวและกีฬาไทยในปี 2567“

สุดาวรรณ”ประกาศเป้าหมายการทำงานปี 2567 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท เพิ่มส่วนแบ่งมูลค่ากีฬาไทยให้ได้ 1% ของอุตสาหกรรมกีฬาโลก คิดเป็น มูลค่า 455,800 ล้านบาท วาง 7 นโยบายขับเคลื่อนท่องเที่ยวและกีฬา ใช้ซอฟต์พาวเวอร์เป็นขุมพลังใหม่
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในปี 2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขอประกาศนโยบายที่สำคัญที่จะ “พลิกโฉมการท่องเที่ยว และกีฬาของไทย” ด้วยการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และเพิ่มส่วนแบ่งมูลค่ากีฬาไทยที่มีเพียง 0.58% ในขณะนี้ให้เป็น 1% จากอุตสาหกรรมกีฬาโลกที่มีขนาด 45.58 ล้านล้านบาท คิดเป็นมูลค่า 455,800 ล้าน บาทให้ได้
“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มอบนโยบายให้หัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานในสังกัด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว มีความมุ่งมั่นและตั้งใจว่าในปี 2567 เราจะเติบโต ไปพร้อมๆ กัน จับมือไปด้วยกันกับทุกภาคส่วน ดิฉันจะเน้นการบูรณาการกับทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ จะพูดจากันมากขึ้น บูรณาการกันมากขึ้น เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายได้อย่างว่องไว” สำหรับนโยบายที่กระทรวงฯ จะขับเคลื่อนในปี 2567 มี 7 นโยบายหลักๆ นโยบายแรก คือ การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปี 2567 จากเชิงปริมาณเข้าสู่โหมดของคุณภาพ ทั้งมิติของในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้บรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยคึกคักตลอดทั้งปี ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทย“
“ประเทศไทยต้องมี High season on year round tourism destination คือ เที่ยวได้ทั้งปี หรือเที่ยวได้ ทั้ง 365 วัน จึงได้เตรียม Event ต่างๆ ไว้มากมาย อาทิ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลสงกรานต์ ที่จะจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพราะยูเนสโก้เพิ่งประกาศขึ้นทะเบียนให้สงกรานต์ในประเทศไทย เป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ จึงต้องยกระดับกิจกรรม Event ต่างๆ ในระดับชุมชนให้เป็น Event ในระดับนานาชาติ เป็นการกระตุ้นการไปท่องเที่ยวเมืองรอง จะทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาตลาดเดิม และเจาะตลาดนักท่องเที่ยวใหม่ๆ ได้ต่อเนื่อง”
นโยบาย 2 กระทรวงฯจะใช้ Soft Power เป็นพลังในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการกีฬาของประเทศไทยให้เป็น “Engine the New Power” และจุดเด่นของ Soft Power ก็จะมีในเรื่องของกีฬาเข้ามาเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนด้วยและเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศไทยในสายตาชาวโลกที่สำคัญ และเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน demand ของการท่องเที่ยวและการกีฬาได้เป็นอย่างดี
นโยบายที่ 3 ประเทศไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยทั้ง Hospitality และ Safety โดยต้องทำให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นว่า “เมืองไทยปลอดภัย” มาแล้วได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ต้องเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามการเอาเปรียบ หลอกลวงนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยของเรา
นโยบายที่ 4 เรื่อง Responsibility เราต้องทำให้การท่องเที่ยวนั้นยั่งยืน ซึ่งเรื่องนี้ เป็นนโยบายที่พูดกันมานานแล้ว แต่ในปี 2567 จะนำเรื่องนี้มาขับเคลื่อนให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นจริงๆ การท่องเที่ยวจะยั่งยืนได้ต่อเมื่อ “ท้องถิ่น” ต้องมาร่วมขับเคลื่อนด้วยกัน
นโยบายที่ 5 จะใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการกระชับความสัมพันธ์ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสานต่อนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับการเดินทางเชื่อมโยงภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ปลายเดือนนี้ จะมีประเด็นพูดคุยที่สำคัญคือ ASEAN Connect ที่จะทำให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก

นโยบายที่ 6 มีนโยบายที่จะขับเคลื่อนด้านกีฬาพื้นฐาน โดยวางระบบการพัฒนาทั่วประเทศเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริม พัฒนาการการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา ทุกคนสามารถออกกำลังกายเป็นวิถีชีวิต สามารถเข้าถึงกีฬาได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งคนทั่วไป ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งจะมีการส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กีฬาเพื่อการอาชีพที่จะต้องพัฒนากีฬาทุกระดับและบุคลากร รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาเพิ่มสมรรถนะให้กับนักกีฬาไทยให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อแข่งขันในระดับนานาชาติ หรือกีฬาอาชีพ และต้องผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติและระดับโลก สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ สุดท้ายคือ E-Sport ถือเป็นกิจกรรมกีฬาใหม่ที่ต้องส่งเสริมเพราะสามารถสร้างทักษะให้กับเยาวชนและ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก

นโยบายที่ 7 การเตรียมพร้อมสำหรับมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ซึ่งปี 2567 จะมีรายการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการทั้งการส่งนักกีฬาไปร่วมแข่งขันกีฬา โอลิมปิกปารีส 2024 และการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ได้แก่/ เอเชียนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์/ จักรยานยนต์โมโตจีพี/ เจ็ตสกีชิงแชมป์โลก/ ฮอนด้า แอลพีจี เอ ไทยแลนด์ 2024/ รวมถึงการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 ซึ่ง มี 3 จังหวัดร่วมเป็นเจ้าภาพ คือ กรุงเทพ ชลบุรี และสงขลา

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับความสำเร็จของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งสิ้น 28 ล้านคน เศษ เกินกว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ส่วนรายได้รวมจากนักท่องเที่ยวปี 2566 ตั้งเป้าไว้ที่ 2.38 ล้านล้านบาท แต่สรุปตัวเลขเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา พบว่า ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 จากปี 2565

ส่วนผลงานด้านกีฬาในปี 2566 นักกีฬาของเรามีผลงานในชนิดกีฬาสากลที่ดีขึ้น และนอกจากนี้ ประเทศไทยได้มีการจัดกีฬาในระดับนานาชาติ ได้แก่ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ครั้งที่ 16 การแข่งขันรายการโมโตจีพี 2023 การจัดการแข่งขันรายการวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2023 ซึ่งทุกรายการมีแฟนกีฬาทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเข้าชมเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น และผู้ประกอบการได้เป็นจำนวนมาก

www.aboutinformant9.blogspot.com

kedsaraporn pnussuwonkiri

tel.095-5516-345

วันอังคารที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2566

KRONOS เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสายพันธุ์ใหม่ ท้าชน บิ๊กไบค์ HYDRA แกร่ง แรง ประหยัดกว่า

KRONOS เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสายพันธุ์ใหม่ท้าชน บิ๊กไบค์ HYDRA แกร่ง แรง ประหยัดกว่า
         เปิดตัว มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสายพันธุ์ใหม่ ขุมพลังแรง ประหยัดพลังงาน KRONOS BIGBIKE HYDRA พันธุ์ไทยแท้อย่างเป็นทางการ ในงาน MOTOR EXPO 2023 มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. - 11 ธ.ค. 2566 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 - 3 เมืองทองธานี (Hall 3.1) ขนทัพรุ่น TOP มาโชว์ในงาน ท้าชน บิ๊กไบค์ ด้วยรุ่น HYDRA
ผงาดเหนือกว่าใคร พร้อมจำหน่ายทั่วประเทศ ชูนวัตกรรม Green Energy ELECTRIC BIKE ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผู้ร่วมเปิดงาน
ดร.พุฒธิพงศ์ ทองวิมล ประธานบริษัท รุ่งอรุณ บรอดคาสติ้ง จำกัด และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง นายเฮนรี่ เซ็ง ผู้บริหารบริษัท อมิดะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ภายใต้แบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโครนอส โดยมี
ว่าที่ร้อยตรี หม่อมราชวงศ์นิวัติ กัลป์ยาณวงศ์ นัดดาใน นายร้อยเอกมหาอำมาตย์ตรี นายกองตรีเสือป่า พระราชวงศ์เธอ กรมหมื่นกวีพจน์สุปรีชา (พระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากัลยาณประวัติ) ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ชมรมจิตอาสาต้นกล้าความดี มาเป็นประธานเซ็น MOU พร้อมเปิดงาน
ภายในงานเปิดตัว รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า KRONOS มอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ใหม่ประหยัดพลังงานด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าตามกระแสนิยมเรื่องการประหยัดพลังงาน ด้วยนโยบายรัฐบาลให้มีการส่งเสริมการใช้รถยนต์ จักรยานยนต์ด้วยพลังงานไฟฟ้า ลดปัญหามลภาวะที่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ และช่วยส่งเสริมภาครัฐการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงน้ำมัน
เปิดตัวคู่พันธมิตร 2 บริษัท เซ็น MOU ชูนวัตกรรมด้านการผลิตชิ้นส่วนและประสิทธิภาพของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยเจ้าแรก สร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ดร.พุฒธิพงค์ ทองวิมล ประธานบริษัท รุ่งอรุณ บรอดคาสติ้ง จำกัด และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง กล่าวว่า วันนี้เรามีการเซ็น MOU ระหว่าง 2 บริษัท ซึ่งเราในนามบริษัท รุ่งอรุณบรอด์คาสติ้ง จำกัด กับ บริษัท อมิดะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตอะไหล่ของดีพาร์ตทั้งหมดรวมถึงวัสดุก่อสร้างที่ดำเนินการมากว่า 40 ปี ซึ่งเรามองเห็นถึงการจะทำธุรกิจร่วมกันในเรื่องของ EV ด้วยกระแสในปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมในเรื่องของรถไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
เราในฐานนะที่มีฐานการผลิตจะตอบโจทย์ในเรื่องนี้ และด้วยมอเตอร์ไซค์ที่เรานำเสนอเป็นรูปแบบที่ใหม่น่าจะตอบโจทย์ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ทั้งรูปลักษณ์ สี ขนาด บอกได้ว่าเป็นคันเดียวในประเทศไทยที่สามารถชาร์จได้ที่ปั๊มให้บริการของรถยนต์ไฟฟ้าทุกที่ได้ หรือเรียกว่า Type 2

   บริษัท รุ่งอรุณบรอด์คาสติ้ง จำกัด เป็นผู้ดำเนินกิจการคลอบคลุมในหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น 1.ลิขสิทธิ์ของไปรษณีย์ การขนส่ง 2.ธุรกิจด้านการโรงแรม 3.ร้านกาแฟ 4.ด้านการสื่อสาร หรือมีเดียออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง

สำหรับการเซ็น MOU ในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดจากธุรกิจที่เราดำเนินการอยู่ เรามองในภาพกว้าง มองอนาคตในแบบหลายมิติที่สามารถเชื่อมและ Matching กับธุรกิจได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นด้านการขนส่งทางไปรษณีย์ เราสามารถนำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า KRONOS ที่มีคุณสมบัติด้านการประหยัดพลังงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้ประชาชนใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนพลังงานเชื้อเพลิง เรามองถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดต่อสังคม ช่วยลดมลภาวะทั้งในเรื่องเสียง และควันพิษที่จะส่งผลกระทบต่อส่วนรวม และนอกจากนี้ยังใช้ในกิจการอื่น ๆ เช่น ร้านกาแฟ ธุรกิจโรงแรม เรายังใช้ในเรื่องของธุรกิจการจัดส่ง การให้บริการแก่นักท่องเที่ยวซึ่งการท่องเที่ยวของไทยในทุกวันนี้ยังมีสิ่งน่าอัศจรรย์ด้านแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติยังให้ความนิยมตลอดทั้งปี
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า KRONOS เป็นรถที่ตอบโจทย์ในเรื่องของพลังงานสะอาด Green Energy ลดโลกร้อน ลดมลภาวะทางเสียง ควันพิษ สำหรับสินค้าในแต่ละรุ่นตอนนี้เรามีการจัดจำหน่ายผ่าน Shop หรือดีลเลอร์ ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อได้ตาม Shop ใกล้บ้านที่สะดวก กลุ่มเป้าหมายที่วางไว้คือ คนทำงาน เมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันแน่นอนเราถูกกว่ามาก ราคาเริ่มต้นที่ 50,000 ต้น ๆ เหมาะแก่คนที่มีรายได้ตั้งแต่ 8,000 กว่าบาทก็สามารถเป็นเจ้าของได้ ทั้งเงินสด และเงินผ่อน ซึ่งเรามี Leasing หรือสถาบันการเงินพร้อมให้บริการทั้ง กรุงศรี หรือ อิออน พร้อมอยู่แล้ว เรื่องการประหยัดพลังงานหรือค่าใช้จ่าย การขับขี่ทั้งวัน 120 กิโลเมตร คุณจ่ายค่าไฟไม่ถึง 20 บาท คุ้มค่ากว่าแน่นอน ด้านคุณวิไลพร แย้มเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมิดะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นบริษัทผลิตอะไล่รถยนต์ ปัจจุบันเราทำเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ KRONOS เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทย 100% โดยผลิตที่ประเทศไทย กำลังการผลิตอยู่ที่ 300 – 500 คัน/เดือนทุกรุ่น เป็นรถที่ประหยัดพลังงานอย่างมาก เพียง 100 กิโลเมตร ใช้ค่าไฟจากการชาร์จหนึ่งครั้งเพียง 20 บาท เท่านั้น ซึ่งเรามีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เป็นส่วนของ บิ๊กไบค์สำหรับผู้ชายที่ขับขี่ไปทำงาน หรือรุ่น สกู๊ตเตอร์ ที่เหมาะกับกลุ่มแม่บ้านที่ขับขี่ไปจับจ่ายซื้อของ หรือใช้ในการบริการส่งของทั่วไป มีจำหน่ายที่เพาเวอร์บายทั่วประเทศ สำหรับที่นำมาออกในงาน Motor Expo 2023 นี้จะเป็นรุ่น Bigbike HYDRA เป็นตัวใหม่ที่สามารถจดทะเบียนได้และขับลงท้องถนนได้
       คุณวิไลพร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทุกรุ่นที่เราออกมานำเสนอในครั้งนี้ มั่นใจได้ว่าได้มาตรฐาน ISO 9001/2015 แน่นอน และเรายังได้ผ่านการทดสอบจากสถาบันไฟฟ้าทั้งเรื่อง แตร มอเตอร์ แบตเตอรี่ และส่วนอื่น ๆที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าให้ได้มาตรฐานตามที่กรมขนส่งระบุด้วยเงื่อนไขทางกฎหมายของประเทศไทย จนได้รับเอกสารรับรองทุกอย่างจึงมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย

      เนื่องจากตลาดบิ๊กไบค์ในตอนนี้คู่แข่งยังมีไม่เยอะ จะพูดได้ว่าเราเป็นเจ้าแรกเลยก็ว่าได้ที่เป็นผู้ผลิตบิ๊กไบค์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขึ้นมา และในช่วงเปิดตัวในงาน MOTOR EXPO 2023 เรามีโปรโมชั่นดี ๆ มานำเสนอในรุ่นของ Bigbike HYDRA จากราคา 290,000 เหลือเพียง 190,000 ลดไปเลยทันที 100,000 บาท

KRONOS เปิดตัว มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสายพันธุ์ไทยแท้ ประกอบไปด้วย BIG BIKE ไฟฟ้า 3 รุ่น ได้แก่ 1. HYDRA 2. SCORPION 3. HELLHOUND
มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า 6 รุ่น
1.TRIAD 2. DISRUPTOR 3. RAPTOR 4. VIPER-S 5. TRIAD-S 6. BULLDOG รถจักรยานไฟฟ้าได้แก่ รุ่น STEAMPUNK พร้อมจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเธียม (LITHIUM NMC BATTERY PACK) 12 AH/ 15 AH/ 20 AH จำหน่ายแบตแห้ง/แบตตะกั่ว (1 SET LEAD-ACID 48 V 20 AH ) จำหน่ายอะไหล่มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า
จุดมุ่งหมายของบริษัทฯ เราคือการผลิตและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงในราคาที่ถูก เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าด้วยบริการรับรองหลังการขายและการดูแลอย่างดีเยี่ยมจากบริษัทฯของเรา
kedsaraporn pnussuwonkiri
0955516345

วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2566

AION สุดปัง!!! รับออเดอร์รุ่น AION ES กว่า 850 คัน  รถไฟฟ้า 100% เพื่อการขนส่งสาธารณะ ในงาน Motor Expo 2023

“ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย)” มาแรงแซงโค้ง เปิดรับออเดอร์ใหญ่ รุ่น AION ES Model รถยนต์นั่ง 4 ประตู (ซีดาน) รถไฟฟ้า 100% ที่ถูกออกแบบเพื่อการเป็นรถขนส่งสาธารณะ จำนวนกว่า 850 คัน จาก บริษัท อีวี มี พลัส จํากัด บริษัทย่อยอรุณพลัส ของปตท. และบริษัท โกลด์ อินทิเกรท จำกัด
        นายโอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย)
เปิดเผยว่า ในปีนี้ถือเป็นการทำตลาดรถไฟฟ้า EV 100% ในประเทศไทยเป็นปีแรก และได้เข้าร่วมงาน Thailand International Motor Expo 2023 เป็นครั้งแรกเช่นกัน โดยได้นำรถมาเปิดตัวในงานนี้ จำนวน 4 รุ่นด้วยกัน คือ AION Y Plus 490 Premium, Hyper GT, Hyper HT และ Hyper SSR แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ รวมถึง AION ES รถยนต์ซีดานไฟฟ้ารุ่นแรกในอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะของประเทศไทย และถือเป็นโอกาสที่ดีของ “ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย)”
เป็นอย่างมาก ที่ได้รับการสั่งสองรถรุ่น AION ES Model ซึ่งเป็น Model เพื่อการขนส่งสาธารณะ มาตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่แท็กซี่ในเมืองไทยอย่างลงตัว จาก บริษัท อีวี มี พลัส จํากัด บริษัทย่อยอรุณพลัส ของปตท. และบริษัท โกลด์ อินทิเกรท จำกัด ที่มียอดสั่งจองแล้วกว่า 850 คัน AION ES Model เป็นยานพาหนะเพื่อการขนส่งสาธารณะที่เป็น EV 100% รถยนต์นั่ง 4 ประตู ซีดาน 5 ที่นั่ง ที่โดดเด่นในเรื่องการดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตกแต่งด้วยโทนสีดำ และเบาะหนังสีดำประหยัดพลังงาน พร้อมห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายอย่างจุใจ
AION ES Model มีขนาดตัวถัง ยาว 4,810 มิลลิเมตร กว้าง 1,880 มิลลิเมตร สูง 1,545 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
AION ES Model สามารถวิ่งได้ไกลหลังจากชาร์จเต็มในระยะทางสูงสุด 442 กิโลเมตร รองรับการชาร์จไฟกระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จไฟ 0-100% ภายใน 6 ชั่วโมง และชาร์จไฟกระแสตรง DC รองรับสูงสุด 75 กิโลวัตต์ ชาร์จจาก 0-80% ภายใน 40 นาที พร้อมระบบความปลอดภัยอย่างครบวงจร และระบบ Cruise Control อีกด้วย
  นายโอเชี่ยน หม่า ยังกล่าวอีกว่า สำหรับงาน Motor Expo 2023 ในครั้งนี้ บูธ AION ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้ที่มาร่วมชมงาน โดยเฉพาะคนกลุ่มที่ต้องการใช้รถไฟฟ้าเพื่อการประหยัดพลังงานที่เป็นรถไฟฟ้า 100% ซึ่งในงานนี้ บริษัทฯ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสุด AION Y Plus 490 Elite ราคา 899,900 บาท (ราคาเปิดตัว 1,069,900 บาท) และ AION Y Plus 490 Premium ราคา 999,900 บาท (ราคาเปิดตัว 1,099,900 บาท)
        ทั้งนี้ ลูกค้าที่สั่งจอง AION Y Plus ทั้ง 2 รุ่นย่อยในงาน Motor Expo 2023 จะได้รับชุดของขวัญ Deliver Gift ประกอบด้วย สายชาร์จฉุกเฉิน, สาย VTOL, เบาะลม และเต็นท์
เฉพาะผู้ที่จองระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม 2566 และจดทะเบียนภายใน 31 มกราคม 2567
www.aboutinformant9.blogspot.com
kedsaraporn pnussuwonkiri
0955516345